พออายุมากขึ้น ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย สมรรถภาพในการเคลื่อนไหวก็อาจจะลดลงกว่าตอนหนุ่มๆ สาวๆ อาจทำให้ผู้สูงวัยหลายคนติดนิสัยนั่งๆ นอนๆ ไม่ค่อยยอมลุกเดิน ไม่ค่อยขยับร่างกาย ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจส่งผลกระทบต่อมวลกล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อจะค่อยๆ เล็กลีบ ร่างกายก็จะอ่อนแอลง จนเสี่ยงต่อการเกิดโรคซาร์โคพีเนีย (Sarcopenia) หรือภาวะที่มวลกล้ามเนื้อลดลง หรือกล้ามเนื้อสลายนั่นเอง แล้วโรคนี้อันตรายไหม? ผู้สูงวัยจะสามารถสังเกตตัวเองอย่างไรได้บ้าง? ตาม #เซอร์เทนตี้กูรู ไปทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อสลาย
ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย หรือ โรคซาร์โคพีเนีย (Sarcopenia) คือ การสูญเสียมวลของกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ซึ่งภาวะนี้ถือเป็นกลุ่มอาการของผู้สูงอายุ (Geriatric Syndrome) ที่พบบ่อยถึง 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุทั่วไป โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะมวลกล้ามเนื้อลดลง ดังต่อไปนี้
1. อายุที่เพิ่มมากขึ้น
โดยทั่วไปคนเราจะมีมวลกล้ามเนื้อสูงที่สุดที่ช่วงอายุ 30 – 40 ปี หลังจากอายุ 40 ปี มวลกล้ามเนื้อก็จะเริ่มลดลงร้อยละ 1 – 2 ต่อปี และจะค่อยๆ ลดลงเร็วขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น จนเริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหลังอายุ 65 ปีขึ้นไป
2.ขาดการออกกำลังกาย ขยับร่างกายน้อยลง
ส่วนใหญ่ผู้สูงวัยที่เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก หรือกลัวหกล้ม มีแนวโน้มจะขาดการออกกำลังกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันและสูญเสียมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น
3.มีภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสม
ผู้สูงวัยส่วนใหญ่มักได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ รวมถึงแคลเซียมและวิตามินดี อาจจะมาจากอาการเบื่ออาหารหรือปัญหาเหงือกและฟัน ทำให้เกิดการสลายของมวลกล้ามเนื้อส่งผลต่อเนื่องถึงระบบเผาผลาญพลังงานที่ลดลง ทำให้ง่ายต่อการสะสมของไขมันเพิ่มขึ้น
4.โรคประจำตัวบางชนิด
เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง อาจทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงได้
สัญญาณและผลกระทบที่เกิดจากภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย
อาการของผู้สูงวัยที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย รวมถึงผลกระทบของภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยที่มีต่อผู้สูงวัย อาจสังเกตได้ดังต่อไปนี้
- จากที่เคยกระฉับกระเฉง กลับเริ่มทรงตัวไม่ดี ลุกนั่งลำบาก หกล้มบ่อย รู้สึกเหนื่อยง่าย
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ตั้งใจ
- เพิ่มความเสี่ยงของภาวะกระดูกหัก ภาวะเปราะบาง
- บางรายไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันตามเดิมได้จนก่อให้เกิดภาวะพึ่งพิง
- คุณภาพชีวิตลดลง บางรายอาจเกิดโรคซึมเศร้า
- เพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนอื่นๆ
วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยสำหรับผู้สูงวัย
สำหรับแนวทางในการป้องกันและดูแลตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยที่ควรทำควบคู่กัน ได้แก่
- ออกกำลังกายแบบบริหารหัวใจง่ายๆ เช่น การเดินเร็ว แกว่งแขน ย่ำเท้าอยู่กับที่ ร่วมกับการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน เช่น ยกน้ำหนักเบาๆ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำอย่างน้อย 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์
- บริโภคโปรตีนประมาณ 1-1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมต่อวัน จากแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา เต้าหู้ ธัญพืช และถั่วต่างๆ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ หากิจกรรมทำเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวในแต่ละวัน ไม่สูบบุหรี่ ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รักษาโรคเรื้อรังหรือโรคประจำตัวที่อาจส่งผลให้มวลกล้ามเนื้อลดลง
ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยอาจส่งผลต่อความสุขและการใช้ชีวิตได้มากกว่าที่คิด ดังนั้นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ และหากท่านไหนมีปัญหาปัสสาวะเล็ด ไหลซึม กลั้นไม่ได้ กลั้นไม่อยู่ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรใส่ตัวช่วยอย่าง ‘กางเกงซึมซับ’ ที่สวมง่าย ใส่สบาย ใส่ได้ทุกวัน สัมผัสนุ่ม และซึมซับปัสสาวะได้ดี แห้งสบาย สามารถทำกิจกรรมที่ชอบหรือกิจวัตรประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีความสุขค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, BDMS Wellness Clinic, คลินิกผู้สูงวัยสุขภาพดี, โรงพยาบาลเวชธานี