#เซอร์เทนตี้กูรู ขอชวนผู้สูงอายุและลูกหลานมาดูวิธีสังเกตความแตกต่างระหว่างอาการผลข้างเคียงจากยากับอาการแพ้ยาที่ควรระวัง พร้อมแนวทางการรับมืออย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาค่ะ

แพ้ยาหรือผลข้างเคียง? สูงวัยเช็กให้ชัดก่อนอันตราย

16 ตุลาคม 2568
แชร์

แพ้ยาหรือผลข้างเคียง? สูงวัยเช็กให้ชัดก่อนอันตราย


เมื่อพูดถึง “อาการแพ้ยา” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่สำหรับผู้สูงอายุหลายๆ ท่านที่ต้องใช้ยาหลายชนิดเพื่อรักษาโรคประจำตัว ความเสี่ยงอาจมากกว่าที่คิด เพราะบางครั้งสิ่งที่เห็นว่าเป็นเพียงผลข้างเคียงเล็กๆ อาจเป็น “สัญญาณอันตราย” ของการแพ้ยา ที่หากมองข้ามไปอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ค่ะ #เซอร์เทนตี้กูรู อยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจอาการแพ้ยาและแยกให้ออกตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อใช้ในการดูแลผู้สูงอายุที่รักกันค่ะ
 
อาการแพ้ยาเกิดจากอะไร?
อาการแพ้ยาเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานผิดปกติ มองตัวยาที่ได้รับเข้าไปว่าเป็น “สิ่งแปลกปลอม” และพยายามต่อต้าน จึงก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่างๆ ขึ้น ไม่ว่าจะได้รับยาด้วยการกิน การฉีด การทา หรือการสูดดมก็ตาม ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดอาการแพ้ยา แต่สำหรับบางรายร่างกายอาจตอบสนองไวเกินไปจนทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยมากอาการแพ้ยาแบบเฉียบพลันจะเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาที่แพ้เข้าไป
 
อาการผลข้างเคียงจากยาแตกต่างจากอาการแพ้ยาอย่างไร? มาเช็กกัน
ผลข้างเคียงเกิดจากกลไกการทำงานของยา เป็นอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่พบเห็นได้บ่อย ซึ่งสามารถพบได้กับยาทุกชนิด ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น ปากแห้ง ง่วงซึม ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อ หรือปัสสาวะบ่อย ซึ่งมักจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเมื่อหยุดยา แต่บางกรณีอาจรุนแรงจนกระทบต่ออวัยวะสำคัญหรือเสี่ยงถึงชีวิตได้ แม้จะพบไม่บ่อยก็ตาม
 
อาการแพ้ยาเบื้องต้นที่ควรรู้
กลุ่มอาการไม่รุนแรง ได้แก่ มักมีผื่นแดงหรือลมพิษ คันตามผิวหนัง อาจเกิดที่ใบหน้า หรือมือ นอกจากนี้อาจพบอาการบวมบริเวณใบหน้า เริ่มจากรู้สึกตึงหน้า ก่อนที่จะนูนขึ้นแล้วเกิดอาการบวมบริเวณส่วนต่างๆ ของใบหน้า เช่น ตาบวม ปากบวม เป็นต้น
กลุ่มอาการปานกลาง ได้แก่ อาการเริ่มชัดขึ้น เช่น หายใจติดขัด หรือผื่นขึ้นทั่วร่างกาย กลุ่มนี้ควรหยุดใช้ยาทันที ดื่มน้ำมากๆ แล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนรุนแรง
 
อาการแพ้ยารุนแรงแบบไหน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดข้อ หรืออาการคล้ายเป็นหวัด
- มีผื่นแดง คัน หรือตุ่มน้ำพอง อาจลามทั่วตัว รวมถึงรอบปาก แขนขา หรือบริเวณลำตัว
- ผิวหนังแสบ บวม หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม หรือมีอาการผิวหนังหลุดลอก
- เจ็บแผลบริเวณเยื่อบุอ่อน เช่น ตา ช่องปาก หรืออวัยวะเพศ
- คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือใจสั่น
- บางรายอาจมีอวัยวะภายในอักเสบ เช่น ตับ ไต หรืออาการรุนแรงถึงขั้นช็อก หมดสติ และหยุดหายใจได้

กลุ่มยาที่ผู้สูงอายุควรระมัดระวังในการใช้
ผลข้างเคียงจากยา (Side Effect) และอาการแพ้ยา (Drug Allergy) เป็นภาวะไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นหลังการใช้ยา ทำให้หลายคนสับสนว่าอาการแบบไหนคือ “แพ้ยา” ตัวอย่างเช่น ง่วงนอน ใจสั่น คลื่นไส้ หรืออาเจียน มักเข้าใจผิดว่าเป็นอาการแพ้ยา ทั้งที่จริงแล้วเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา

- ยาลดความดันโลหิต ควรระวังภาวะความดันตกเมื่อลุกหรือนั่งเปลี่ยนท่าทางเร็วเกินไป อาจทำให้หน้ามืด เวียนหัว หรือล้มได้ ควรลุกช้าๆ และสังเกตอาการเสมอ
- ยาแก้ปวดและต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น แผลในกระเพาะอาหาร ภาวะไตเสื่อม หรือเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรใช้ตามคำแนะนำแพทย์เท่านั้น
- ยาแก้แพ้ ยาแก้แพ้รุ่นเก่าหลายตัวมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้ง่วงซึม หากใช้ต่อเนื่องนานๆ อาจส่งผลต่อความจำและเสี่ยงสมองเสื่อมได้
- ยานอนหลับและยาคลายกังวล อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม เสี่ยงอุบัติเหตุหากต้องขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งหากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายต้องพึ่งยาตลอดแล้วหยุดยาได้ยาก
- วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร แม้จะดูปลอดภัย แต่หากใช้ไม่เหมาะสมกับโรคประจำตัว หรือทานร่วมกับยาบางชนิด อาจเกิดผลข้างเคียงได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

สิ่งสำคัญที่ควรทำเมื่อผู้สูงอายุแพ้ยา
- หยุดยาหรือระงับการใช้ยาที่สงสัยทันที และหากมีอาการรุนแรง ให้รีบพาท่านไปโรงพยาบาลทันที
- ถ่ายภาพผื่นหรือบริเวณผิดปกติเก็บไว้ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยของแพทย์
- นำยาที่ใช้พร้อมฉลาก รายการยา อาหารเสริม สมุนไพรที่ใช้ติดตัวไปด้วย
- หากมีประวัติแพ้ยาอยู่แล้ว ให้พกบัตรแพ้ยาหรือจดชื่อยาและอาการที่แพ้ไว้ พร้อมแจ้งประวัติแพ้ยาให้แพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง และควรปรึกษาแพทย์-เภสัชกร เพื่อหาทางเลือกยาที่ปลอดภัยแทน
 
ยิ่งสูงวัยยิ่งต้องให้ความสำคัญกับ “การใช้ยาอย่างปลอดภัย” เพราะไม่เพียงแต่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงเท่านั้น แต่ “การแพ้ยา” อาจกลายเป็นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ค่ะ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเล็ด ไหลซึม กลั้นไม่ได้ กลั้นไม่อยู่ การเลือกใช้ กางเกงซึมซับ ที่สวมง่าย สัมผัสนุ่ม ซึมซับดี แห้งสบาย ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น ลดความกังวลเมื่อต้องอยู่นอกบ้านหรือในช่วงเวลาที่ไม่สะดวกเข้าห้องน้ำค่ะ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์แนชั่นแนล หนองแขม , โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต , คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์