“โรคไข้หวัดใหญ่” เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่สามารถพบได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบบ่อยขึ้นในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง และโรคปอดเรื้อรัง ซึ่งอาจทำให้การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มีความรุนแรงและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับโรคนี้อย่างเหมาะสม #เซอร์เทนตี้กูรู ขอชวนมาทำความเข้าใจโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมแนวทางดูแลและป้องกันไม่ให้โรคนี้กระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนที่คุณรักกันค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงวัยเสี่ยงอาการหนักเมื่อรับเชื้อไข้หวัดใหญ่
- ระบบภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุมีการเสื่อมถอยตามอายุ ทำให้ต้านทานเชื้อไวรัสได้น้อยลง
- มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด เบาหวาน โรคไต หรือโรคทางเดินหายใจ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้น
- การตอบสนองต่ออาการเจ็บป่วยช้ากว่าคนวัยหนุ่มสาว อาจทำให้การวินิจฉัยและรักษาเกิดขึ้นล่าช้า
เช็กอาการของไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงวัย
- มีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น อ่อนเพลีย
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ หรือปวดกระบอกตา
- ไอแห้ง เจ็บคอ น้ำมูกไหล
- ภาวะซึม เบื่ออาหาร หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ผู้สูงวัยบางรายอาจแสดงอาการสับสนหรือซึม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนที่ควรพบแพทย์ทันที
ภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ต่อร่างกายผู้สูงวัย
- ปอดอักเสบหรือติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
- ภาวะหายใจล้มเหลว
- โรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
- อาจต้องนอนโรงพยาบาลหรือใช้เครื่องช่วยหายใจในกรณีที่รุนแรง
- มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าคนวัยอื่นๆ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ทำไมผู้สูงวัย 65 ปีขึ้นไป ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด High Dose
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด High Dose มีปริมาณสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันมากกว่าวัคซีนทั่วไป ช่วยเสริมภูมิให้ร่างกายผู้สูงอายุตอบสนองต่อเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น
- มีงานวิจัยยืนยันว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถลดอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ผู้สูงวัยโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงวัย
- รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะชนิด High Dose สำหรับผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
- หมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หรือใกล้ชิดผู้ที่มีอาการไอจาม
- รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
- หากมีอาการไข้หรือเจ็บป่วย ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็ว
และสำหรับผู้สูงวัยท่านใดที่มีปัญหาเรื่องการกลั้นปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะซึม หรือควบคุมไม่ได้ การใช้ตัวช่วยอย่าง “กางเกงซึมซับ” ที่ออกแบบมาเพื่อสวมใส่ได้ทุกวัน นุ่มสบาย ซึมซับได้ดี ไม่อับชื้น ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ ออกไปใช้ชีวิตได้เต็มที่มากขึ้น ให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ขอบคุณข้อมูล โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลนวเวช