เพราะเหตุใดอายุที่มากขึ้นทำให้มีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นปากมากกว่าปกติกันนะ? ปัญหา
“กลิ่นปาก” ในผู้สูงอายุเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจทำให้ท่านหมดความมั่นใจในการพูดคุยสื่อสารกับลูกหลานหรือเพื่อนฝูงได้เลยนะคะ #Certainty จึงอยากชวนลูก ๆ หลาน ๆ มาทำความเข้าใจสาเหตุ
พร้อมแนะนำวิธีลดกลิ่นปากให้กับท่านกันค่ะ
สาเหตุของกลิ่นปากมักมาจากอะไร?
โดยปกติแล้วกลิ่นปากมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- ปัญหาสุขภาพด้านร่างกาย หรือความเสื่อมสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ในช่องปากกลิ่นไม่พึงประสงค์มักจะมาจากภายในช่องปากที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้ไปทำการย่อยสลายโปรตีนที่ตกค้างอยู่ในช่องปากและลำคอ ส่งผลให้ภายในปากเกิดกลิ่นเหม็นขึ้นได้ค่ะ
- ปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ที่อาจเป็นปัจจัยทางอ้อมได้ เช่น ผู้สูงวัยที่เป็นโรคไขข้ออักเสบและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ก็อาจส่งผลให้ความสามารถในการดูแลสุขอนามัยในช่องปากลดลง หรือหากมีการติดเชื้อไซนัสก็อาจส่งผลให้ลมหายใจมีกลิ่นเหม็นได้ค่ะ
เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่องปากให้ผู้สูงวัย
- แปรงฟันให้สะอาดและแปรงลิ้นร่วมด้วย เพราะการแปรงลิ้นจะช่วยกำจัดคราบที่เกาะหนาบนลิ้นอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
- ให้ท่านจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้น้ำลายไม่หนืด
- หมั่นตรวจดูว่าผู้สูงอายุมีอาการปากแห้ง เหงือกอักเสบ หรือมีเศษอาหารติดในช่องปากหรือไม่
- ใช้น้ำยาบ้วนปากควรเลือกชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ
เคล็ดลับวิธีแปรงฟัน 222 จากกรมอนามัย เพื่อลดกลิ่นปาก มีขั้นตอนดังนี้
- แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ประมาณ 2 นาทีขึ้นไป
- แปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้ง/ต่อวัน ทั้งเช้าและก่อนนอน
- หลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง ไม่ควรทานอาหาร
- หากผู้สูงอายุท่านไหนที่ใส่ฟันปลอม หลังรับประทานอาหารควรถอดออกมาทำความสะอาดทุกครั้งและควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสภาพภายในช่องปากค่ะ
เพียงเท่านี้ผู้ใหญ่ที่คุณรักก็จะมีลมหายใจสดชื่น มีสุขอนามัยช่องปากที่ดี ซึ่งพอกลิ่นปากลดลง ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพูดคุยกับคนรอบข้างให้ท่าน เป็นการเพิ่มความสุขในการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนั่นเองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก สสส., younghappy.com, BDMS Wellness Clinic, กรมอนามัย และ ramachannel