จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก โดยกรมควบคุมโรค ได้เผยว่า ผู้ป่วยที่รักษาหายไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกายแล้ว ในบางรายอาจมีอาการหลงเหลืออยู่ที่เรียกว่า “ภาวะลองโควิด” (Long COVID) ได้ในช่วง 1 - 3 เดือนแรก สามารถพบได้ร้อยละ 30 - 50 ของผู้ป่วยโดยเฉพาะในกลุ่มที่ป่วยรุนแรง ดังนั้น #Certainty จึงอยากพาทุกคนและผู้สูงวัยซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มเสี่ยงไปรู้จักกับภาวะนี้ พร้อมวิธีสังเกตอาการกันค่ะ
“ลองโควิด” (Long COVID) คือ
อาการต่อเนื่องหรืออาการหลงเหลือ หลังจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะยาว เนื่องจากในขณะที่ป่วยเป็นโควิด-19 ร่างกายมีการสร้างแอนติบอดีบางอย่างขึ้นมา และไปจับกับโปรตีนเซลล์ของอวัยวะบางส่วนในร่างกาย และไปทำลายอวัยวะส่วนต่างๆ ซึ่ง “ลองโควิด” (Long COVID) เป็นอาการที่ไม่มีลักษณะตายตัว บางรายอาจจะมีอาการที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันออกไป ซึ่งผลกระทบของ “ลองโควิด” (Long COVID) สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย ตั้งแต่ระบบหายใจ, ระบบประสาท, ระบบทางเดินอาหาร, หัวใจและหลอดเลือด ทำให้ผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 บางรายอาจยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกตินั่นเองค่ะ
กลุ่มเสี่ยงที่อาจพบอาการ “ลองโควิด” (Long COVID)
• ผู้สูงอายุ
• ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ในกลุ่นนี้จะมีความเสี่ยงในการเกิด “ลองโควิด” (Long COVID) ได้มากกว่ากลุ่มที่ติดเชื้อและไม่มีอาการ
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว
• ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ
• ผู้ที่มีภาวะอ้วน มีน้ำหนักตัวมาก
การสังเกตอาการ “ลองโควิด” (Long COVID) ที่อาจเกิดขึ้นได้)(อาจมีอาการแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ไม่มีลักษณะตายตัว)
• อาการ “ลองโควิด” ที่สามารถพบได้ เช่น ไอ , มีไข้, ปวดศีรษะ, คัดจมูก จมูกไม่ได้กลิ่น , รับรสชาติอาหารได้น้อยลง, ระคายเคืองดวงตา น้ำตาไหล, หายใจลำบาก, ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย, นอนไม่หลับ, ความดันโลหิตสูง, มีภาวะสมองล้า และมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เป็นต้น
• อาการ “ลองโควิด” ที่มักพบได้บ่อย เช่น ไอ, ปวดศีรษะ, อ่อนเพลียเหนื่อยล้า, การรับรู้กลิ่นเปลี่ยนไป, การรับรสชาติอาหารเปลี่ยนไป, ท้องร่วง ท้องเสีย, หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม, เจ็บหน้าอก และปวดตามข้อต่อหรือกล้ามเนื้อต่างๆ
แนวทางการรักษา “ลองโควิด” (Long COVID)
การรักษาจะเป็นไปตามอาการที่พบ ดังนั้นหลังจากรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ต้องหมั่นสังเกตอาการของตัวคุณเองหรือผู้สูงอายุว่ามีความผิดปกติหรือไม่อย่างไรบ้าง เนื่องจากแพทย์จะทำการรักษาตามอาการที่เป็น ดังนั้นต้องให้ความสำคัญกับข้อปฏิบัติและดูแลตนเองอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจตามมาได้นั่นเองค่ะ
สุดท้ายนี้ ถึงแม้ผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตนตามมาตรการในการป้องกันอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ เช่น ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่แออัด หรือไม่มีอากาศถ่ายเทค่ะ
รวบรวมข้อมูลจาก กองระบาดวิทยา/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลเพชรเวช และ โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์แนชั่นแนล หนองแขม