ปัญหาเรื่องการปัสสาวะไม่ออกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย
อาจมีปัจจัยหลักใหญ่ ๆ จากเรื่องของ “กระเพาะปัสสาวะไม่บีบตัว” หรือ “มีการอุดกั้นของท่อปัสสาวะ

สูงวัยปัสสาวะไม่ออก อย่าปล่อยทิ้งไว้ อาจอันตรายกว่าที่คิด

22 สิงหาคม 2566
แชร์

สูงวัยปัสสาวะไม่ออก อย่าปล่อยทิ้งไว้ อาจอันตรายกว่าที่คิด

รู้ไหมคะว่าปัญหาเรื่องการปัสสาวะไม่ออกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย โดยภาวะนี้อาจพบได้ทั้งในผู้สูงอายุที่เป็นผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งโดยปกติแล้วคนเรามักจะปัสสาวะเฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 300-500 มิลลิลิตร ใช้เวลาถ่ายประมาณ 30 วินาที ซึ่งหากท่านไหนไม่สามารถปัสสาวะออกได้ตามปกติ แม้ว่ารู้สึกปวดมากก็ตาม หรืออาจต้องใช้เวลาในการเบ่งปัสสาวะนานกว่าปกติ อย่านิ่งนอนใจนะคะ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายและคุณภาพชีวิตได้ แล้วอาการปัสสาวะไม่ออกนี้ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ตาม #Certainty ไปดูกันเลยค่ะ

“ปัสสาวะไม่ออก” เกิดจากปัจจัยอะไร? 
การที่ร่างกายของผู้สูงอายุเกิดปัญหาปัสสาวะไม่ออกนั้นเป็นภาวะที่ไม่สามารถขับปัสสาวะได้ตามปกติแม้ว่ารู้สึกปวดปัสสาวะมากหรืออาจต้องใช้เวลาเบ่งปัสสาวะนานกว่าจะออก อาจมีปัจจัยหลักใหญ่ ๆ จากเรื่องของ “กระเพาะปัสสาวะไม่บีบตัว” หรือ “มีการอุดกั้นของท่อปัสสาวะ” นั่นเองค่ะ เราไปทำความรู้จักทีละปัจจัยกัน

1. “กระเพาะปัสสาวะไม่บีบตัว” 
โดยกระเพาะปัสสาวะไม่บีบตัวอาจเกิดจากระบบประสาทที่มาเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อาจมีความผิดปกติตั้งแต่สมอง ไขสันหลัง และปลายประสาทที่มาเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุ การผ่าตัดจากโรคของระบบประสาท และที่พบมาก คือ กระดูกสันหลังได้รับบาดเจ็บ เช่น กระดูกสันหลังหักจนทำให้ประสาทไขสันหลังเสียหน้าที่ไป หรือจากโรคเบาหวานที่ทำให้ปลายประสาทเสียหน้าที่ และที่กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะไม่สามารถบีบตัวได้ อาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะถูกยืดจากน้ำปัสสาวะเต็มเกินความจุของกระเพาะเอง เนื่องจากมีการอุดกั้นทางออกของกระเพาะปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากโต หรือจากการที่มีโรคของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะทำให้บีบตัวไม่ได้

2. “การอุดกั้นของท่อปัสสาวะ” 
ส่วนใหญ่แล้วอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 
🔹โรคต่อมลูกหมากโต เป็นเนื้องอกธรรมดาที่พบมากในผู้ชายสูงอายุ ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 60 - 80 ปี 
🔹คอกระเพาะปัสสาวะตีบแคบพบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงในวัยกลางคนขึ้นไป ส่วนใหญ่อายุมากกว่า 40 ปี 
🔹ภาวะท่อปัสสาวะตีบ ผู้ป่วยมักมีประวัติอุบัติเหตุบาดเจ็บของท่อปัสสาวะมาก่อน เช่น กระดูก เชิงกรานหัก แล้วทำให้มีท่อปัสสาวะฉีกขาด 
🔹ภาวะหูรูดของท่อปัสสาวะบีบรัดตัวผิดปกติ พบได้ในผู้ที่มีประวัติการผ่าตัดทางทวารหนัก เช่น ริดสีดวงทวาร เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจตามมาจากปัญหา “ปัสสาวะไม่ออก” 
🔹มีอาการปวด ผู้ป่วยมีอาการปวดทุรนทุราย และมีก้อนที่หน้าท้อง ควรรีบนำไปพบแพทย์โดยเร็ว 
🔹มีการติดเชื้อ เพราะมีน้ำปัสสาวะค้างอยู่ ทำให้มีการติดเชื้อง่าย บางคนมีไข้สูง หนาวสั่น  น้ำปัสสาวะขุ่นบางรายเป็นหนอง 
🔹อาจเกิดนิ่วได้ เพราะการที่มีปัสสาวะคั่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ 
🔹ไตวาย เนื่องจากมีน้ำเต็มกระเพาะปัสสาวะ น้ำปัสสาวะจากท่อไตก็ไหลลงมาไม่ได้ ทำให้การกรองของเสียจากไตเสียไป มีของเสียในร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการซีด โลหิตจาง เหนื่อย ภาวะเลือดเป็นกรด สารโพแทสเซียมในเลือดสูง เกร็ดเลือดทำหน้าที่เสียไปทำให้เลือดออกง่าย เป็นต้น 
🔹ในผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่เป็นผู้หญิง และมีประวัติเป็นมะเร็งในช่องเชิงกราน โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกได้รับการฉายแสงและฝังแร่ มักมีประวัติปัสสาวะเป็นเลือดเป็นๆ หายๆ ในรายที่รุนแรงก็มีเลือดออกมากพร้อมกับมีก้อนเลือดออกมา ทำให้อุดกั้นทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก จึงอาจมีอาการซีดอ่อนเพลีย และบางรายมีไตวายร่วมด้วย

ดังนั้นลูกหลานจึงต้องหมั่นสังเกตเรื่องการปัสสาวะของผู้สูงอายุที่รักกันด้วยนะคะ ซึ่งหากพบความผิดปกติให้รีบพาท่านพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ และหากท่านไหนที่มีปัญหาปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน จากการดื่มน้ำเยอะ ทำให้ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ อย่าลืมใส่ตัวช่วยอย่าง ‘กางเกงซึมซับ’ ที่สวมง่าย ใส่สบาย ใส่ได้ทุกวัน สัมผัสนุ่ม ซึมซับปัสสาวะได้ดี แห้งสบาย ช่วยให้นอนหลับได้อย่างคลายกังวล เมื่อได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็พร้อมสำหรับการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบในวันรุ่งขึ้นได้อย่างเต็มที่ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ , คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และโรงพยาบาลวิชัยยุทธ มหาวิทยาลัยมหิดล