ภาวะเปราะบาง คือ ภาวะหนึ่งของร่างกายที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกาย
จากแข็งแรงสู่ภาวะอ่อนแอ เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายเสื่อม หรือการทำงานของร่างกายถดถอย
ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม
5 อาการของภาวะเปราะบาง
1.กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscle
Weakness) ความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อเป็นลักษณะเฉพาะของภาวะเปราะบางที่พบมากที่สุด
เป็นสิ่งที่บ่งชี้การเริ่มต้นของภาวะนี้ ซึ่งสามารถประเมินได้จากการวัดแรงบีบของมือ
ผู้สูงอายุที่ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง มักยืนเองไม่ค่อยได้หรือไม่มีแรงหยิบจับของ
2.กิจกรรมทางกายต่ำ (Low
physical activity) เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการหดตัวของกล้ามเนื้อลาย กระดูกและข้อ
โดยไม่ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานหรือใช้พลังงานเพิ่มจากภาวะปกติ
สามารถประเมินได้จากความถี่และระยะเวลาของกิจกรรมที่ทำให้บุคคลเริ่มมีเหงื่อหรือหายใจเร็วขึ้น
ผู้สูงอายุที่มีภาวะกิจกรรมทางกายต่ำ จะทำให้สมรรถภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ลดลง
3.เดินช้าลง (Slowness
walking) วัดจากความเร็วของการเดินช้าลงร้อยละ 20 จากผู้สูงอายุปกติ
ซึ่งผู้สูงอายุที่มีภาวะนี้จะใช้เวลาเดินที่มากขึ้นในระยะทางเท่าเดิม
4.ความเหนื่อยล้า (Poor endurance)
เป็นกลุ่มอาการที่จะมีความเหนื่อยล้าทางอารมณ์และความคิด รู้สึกว่าคุณค่าในตัวเองลดลง
ขาดความกระตือรือร้นและความเชื่อมั่นในตัวเอง ผู้สูงอายุที่ประสบภาวะนี้จะรู้สึกเหนื่อยง่าย
โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร
5.น้ำหนักตัวลดลงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจลด (Unintentional weight loss)
ผู้สูงอายุที่มีภาวะนี้จะมีน้ำหนักตัวลดลงมากกว่า 4.5 กิโลกรัมหรือมากกว่าร้อยละ 5 ของน้ำหนักตัวในระยะเวลา 1
ปี
วิธีการป้องกัน
1. กระตุ้นให้ร่างกายเคลื่อนไหว : ด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ
อย่างสม่ำเสมอ
2. จัดโภชนาการที่ดี : รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้ รวมถึงน้ำสะอาดวันละ 8-10
แก้ว
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : ผู้สูงวัยควรนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง
ควรเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา เพื่อสุขภาวะที่ดี
4. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ :
สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ ด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในที่อยู่อาศัย
เพื่อความปลอดภัยและเอื้อต่อการมีสุขภาพดี
5. ดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ :
สังเกตสุขภาพของผู้สูงอายุอยู่เสมอ หากมีโรคประจำตัวต้องทานยาตามแพทย์สั่งและพบแพทย์ตามนัด
เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็หมั่นชวนผู้สูงอายุคุยเล่น
หรือทำกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อการมีสุขภาพจิตที่ดี
6.
เข้ารับวีคซีนที่ควรฉีดในผู้สูงอายุ : ผู้สูงอายุควรเข้ารับการฉีดวัคซีน
เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะเสื่อมสมรรถภาพเมื่ออายุมากขึ้น การฉีดวัคซีนจึงถือเป็นการป้องกัน
และลดความรุนแรงของการเกิดโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวัคซีนที่ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำให้ฉีด
มีดังนี้
6.1.วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักและคอตีบ
6.2.วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อตาย
6.3.วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี
6.4.วัคซีนวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดโพลีแซคคาไรด์และชนิดคอลจูเกต
ขอบคุณข้อมูลจาก วารสารสภาการพยาบาล ปีที่ 33 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม-กันยายน 2561, Pobpad.com