🔹ปวดปัสสาวะรีบเร่ง รู้สึกปวดปัสสาวะอย่างมากโดยฉับพลัน และต้องไปห้องน้ำทันทีโดยไม่สามารถรอได้ อาจมีปัสสาวะเล็ดราดร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้ 

🔹ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ คือ มีการปัสสาวะ มากกว่า 8 ครั้งต่อวัน 

🔹ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน หลังเข้านอนไปแล้ว ต้องตื่นมาปัสสาวะไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง 

🔹อาการอื่นๆ เช่น น้ำปัสสาวะมีปริมาณน้อยทั้งที่ปวดปัสสาวะมาก

โดยในส่วนของปัจจัยในการเกิดภาวะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีความเจ็บป่วยและพฤติกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น 

🔹โรคของระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis) 

🔹โรคเบาหวาน 

🔹ระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะมีความผิดปกติเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น 

🔹การรับประทานยาบางชนิดที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ หรือภาวะที่ผู้ป่วยดื่มน้ำมากผิดปกติ 

🔹การดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์มากเกินไป 

🔹การถ่ายปัสสาวะออกไม่หมดทำให้มีปัสสาวะตกค้างอยู่ กระเพาะปัสสาวะจึงเต็มเร็วกว่าปกติ 

🔹การเสื่อมสภาพการควบคุมการถ่ายปัสสาวะตามอายุ 

🔹ตัวกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ หรือ กล้ามเนื้อที่รองรับอวัยวะในอุ้งเชิงกรานและท่อปัสสาวะ มีการทำงานที่ผิดปกติ

ทั้งนี้แม้ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็อาจรบกวนการทำกิจกรรมและการใช้ชีวิตในแต่ละวันของคุณ อาจส่งผลให้คุณภาพการนอนไม่ดี พักผ่อนไม่เต็มที่ จึงต้องหมั่นสังเกตตัวเอง หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการรักษาอย่างทันทีท่วงทีค่ะ และหากท่านไหนที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด ควรมองหาตัวช่วยอย่าง ‘กางเกงซึมซับ’ ที่สวมง่าย บางสบายคล้ายใส่กางเกงผ้า ใส่กระชับพอดีตัว และซึมซับดี ช่วยเติมความอุ่นใจให้คุณได้ออกไปชีวิตและสนุกกับกิจกรรมอย่างที่เคยค่ะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลธนบุรี 2 และโรงพยาบาลกรุงเทพ