แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี
แจงโรคหัวใจไม่ได้เป็นเพียงโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่มีโอกาสเป็นได้ ทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เตือนผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรมั่นตรวจสุขภาพร่างกายและหัวใจประจำปี
ลดเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดและเสียชีวิตเฉียบพลัน
พร้อมเชิญชวนผู้สนใจร่วมสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ
เพื่อซื้อเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ECHO ) กับโครงการอิ่มบุญ อิ่มใจฯปี 6 มอบแด่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
อ.นพ. ธีรภัทร
ยิ่งชนม์เจริญ อายุรแพทย์โรคหัวใจภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า โรคหัวใจ (Heart
Disease) สามารถพบได้ในทุกเพศและช่วงอายุ
แต่คนทั่วไปมักจะคิดว่าโรคหัวใจจะเกิดในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น
ซึ่งแต่ละช่วงอายุจะพบโรคหัวใจชนิดที่แตกต่างกัน
โดยในเด็กที่เป็นโรคหัวใจส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด
ส่วนในผู้ใหญ่จะพบว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งมีสาเหตุการเกิดโรคหัวใจแต่ละชนิดแตกต่างกัน
โดยโรคหัวใจแต่กำหนดสามารถแบ่งเป็น
2 ประเภทด้วยกันคือ
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว ความผิดปกติในโครงสร้างของระบบหลอดเลือด
และ/หรือหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด
โดยไม่มีการผสมกันของเลือดดำและเลือดแดงจึงไม่มีอาการเขียว
ส่วนโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียว คือ ภาวะที่มีความผิดปกติของหัวใจ
และ/หรือหลอดเลือดที่เกิดขึ้น โดยที่ความผิดปกตินั้นๆ
ทำให้มีเลือดดำปนอยู่ในฝั่งของเลือดแดง ทำให้เด็กอยู่ในภาวะขาดออกซิเจน ริมฝีปาก
เล็บมือเล็บเท้าจึงมีสีออกเขียวๆ ม่วงๆ
ซึ่งจะเห็นชัดเจนที่เด็กร้องหรือดูดนมการเจริญเติบโตของเด็กกลุ่มนี้จะน้อยกว่าปกติเพราะเลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายมีระดับออกซิเจนต่ำกว่าปกติ
ยกตัวอย่างเคสผู้ป่วยโรคหัวใจ ด.ญ.ธีริศรา อาชาฤทธิ์ (น้องการ์ตูน)
ปัจจุบันอายุ 13 ปี
ป่วยเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียว ผ่านการผ่าตัดทั้งเล็กและใหญ่มานับ10ครั้ง
โดยน้องการ์ตูนต้องเข้ารับการผ่านตัดเพื่อรักษาหลังลืมตาสู่โลกภายนอกได้เพียง 10 วัน
เนื่องจากแพทย์ได้ใช้เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ECHO) ตรวจหาความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจและพบว่าน้องไม่มีหลอดเลือดจากหัวใจไปยังปอด
รศ.นพ.ปิยะ สมานคติวัฒน์ ศัลยแพทยท์ทรวงอก ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี พร้อมด้วยทีมแพทย์ จึงได้ผ่าตัดเพื่อใส่หลอดเลือดเทียมเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณเลือดไปที่ปอด
แต่หลังจากผ่าตัดได้เพียง 2 วัน พบว่ามีลิ่มเลือดอุดตัน อยู่ในหลอดเลือดเทียม
จึงต้องผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมอีกข้างหนึ่ง รวมเป็น 2 เส้น
เนื่องจากแพทย์พบว่าการใส่หลอดเลือดเทียมแค่เส้นเดียว ยังไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงที่ปอดได้เพียงพอ
หลังจากการผ่าตัดในครั้งนั้น น้องการ์ตูนอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
รวมระยะเวลาที่ต้องอยู่ รพ.รามาธิบดีนับตั้งแต่แรกคลอดนานถึง 4 เดือน
พออายุครบ 3 ขวบน้องการ์ตูนต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง
เพื่อเชื่อมหลอดเลือดระหว่างหัวใจกับปอดใหม่ ภายหลังการรักษาไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนมารักษาโดยการใส่ขดลวดเข้าไปในหลอดเลือดแทน
ซึ่งน้องการ์ตูนก็ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีนี้เป็นอย่างดี
จนเมื่อ ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา
น้องการ์ตูนต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาหัวใจของน้องการ์ตูนสามารถทำงานได้เพียง
3 ห้องและมีภาวะหัวใจรั่ว
รวมทั้งภาวะเลือดดำและเลือดแดงไหลมารวมกัน ส่งผลให้น้องตัวเขียว
และหัวใจเต้นเร็วมาตลอด ครั้งนี้ทีมแพทย์ใช้เวลาผ่าตัดนานถึง 12 ชั่วโมง โดยผ่าตัดหัวใจให้มีห้องล่างขวา
พร้อมทั้งอุดรูรั่วของหัวใจ ปัจจุบันหัวใจของน้องการ์ตูนสามารถใช้งานได้ทั้ง 4 ห้อง
เหมือนคนทั่วไปและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เรียน เล่นและอยู่กับครอบครัว
แต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
โดยมีนัดติดตามอาการตลอดเพื่อประเมินอาการของโรค
ส่วน
โรคหัวใจขาดเลือดนั้น เกิดจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจอุดตัน
หรือมีไขมันเกาะที่ผนังของหลอดเลือด
ทำให้หลอดเลือดตีบจึงทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตาย
ส่วนใหญ่แล้วโรคหัวใจขาดเลือดจะพบในคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจจะช้าหรือเร็วกว่านี้
ขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน เช่น คนที่เป็นโรคเบาหวาน
หรือคนที่เป็นโรคความดันโลหิตและไขมันในเลือดสูง ความอ้วน ความเครียด สูบบุหรี่
ดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
ซึ่งสาเหตุของปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด ส่วนใหญ่มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน
การบริโภคอาหาร และการไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสะสมเป็นเวลานาน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตกะทันหันนั้น
เกิดจากผู้ป่วยไม่ทันระวังตัวว่าตนเองมีโรคนี้อยู่เมื่อออกแรงหนักๆ
โดยเฉพาะกิจกรรมที่หนักกว่าที่ทำปกติ หรือเล่นกีฬาหนักๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน
อาจจะกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
จึงทำให้ตะกรันไขมันสะสมในหลอดเลือดหัวใจนั้นสามารถเกิดการปริแตกออกได้ซึ่งทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันอย่างเฉียบพลันได้และทำให้เสียชีวิตกะทันหัน
โดยปีนี้มูลนิธิรามาธิบดีฯ
มีโครงการเครื่องมือแพทย์เพื่อผู้ป่วยโรคหัวใจ จึงได้ร่วมกับบริษัท ดีเอสจี
อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ ซึ่งเป็นพันธมิตรและจัดทำโครงการ “อิ่มบุญ อิ่มใจ กับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยปีนี้ ทางมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ได้ร่วมกับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น
เพื่อสบทบทุนซื้อเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง(ECHO) เพื่อมอบให้สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ด้านนางสาว
ชัชณี อนันต์วัฒนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอสจี
อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในนามของผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้
ได้กล่าวถึงโครงการเพื่อสังคมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ว่า โครงการ “อิ่มบุญ อิ่มใจ กับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้” ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนผู้ใจบุญและผู้ใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้
เป็นอย่างดีต่อเนื่องมาตลอด 6 ปี
โดยปีนี้มีผู้ใจบุญทั้งหลายร่วมสบทบทุนซื้อเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง(ECHO) ผ่านสองช่องทาง ได้แก่ ช่องทางแรก
การบริจาคผ่านกิจกรรมในโซเซี่ยลมีเดีย 1 Share 1 Baht โดยการแชร์คลิปวีดีโอถ่ายทอดบทสัมภาษณ์ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว
โดย1แชร์เท่ากับร่วมบริจาค
1 บาท
คลิกชมคลิป : https://www.facebook.com/certaintyclub/videos/331042614342226/?t=33
และช่องทางที่สอง
รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมยอดบริจาคจากทั้งสองช่องทาง 1,000,000 บาท เพื่อสบทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งมั่นที่จะพัฒนาโครงการต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงวัยและประชาชนทั่วไปอย่างยั่งยืน
เพราะ "การให้" คือความสุขที่ยิ่งใหญ่ทั้งผู้ให้และผู้รับ. อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้
จัดจำหน่ายโดย บมจ.ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) 183 อาคารรีเจ้นท์เฮ้าส์ ชั้น 11 ปทุมวัน กทม. โทร 02-106-8223